หลากหลายและหลอมรวม
ความหลากหลาย (Diversity) และการหลอมรวม (Inclusion) เป็นมิติที่มีความสำคัญและกำลังคืบคานอยู่รอบตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากมองไปรอบๆ ก็จะสังเกตได้อย่างชัดเจนว่าขอบเขตทางสังคมเริ่มขยายกว้างขวางมากยิ่งขึ้น การแลกเปลี่ยนและปฏิสัมพันธ์ต่างๆ มีมากอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลกระทบจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก การสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ของกลุ่มต่างๆ รวมถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอย่างไร้ขีดจำกัดของมนุษยชาติ ทำให้มนุษย์ทุกเพศวัยในทุกมุมโลกไม่สามารถหลีกหนีไปจากการเสพเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันได้
จากขอบข่ายของสังคมที่ไร้พรหมแดน รวมถึงเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างทั่วถึง ได้นำมาซึ่งความหลากหลายของผู้คน ทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา วัฒนธรรม เพศสภาพ การศึกษา ฯลฯ เป็นสิ่งที่องค์การต่างๆ ต้องยอมรับและมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ระบบ ให้สามารถรองรับและหลอมรวมเข้ากับสถานการณ์ของความหลากหลายที่เกิดขึ้นเพื่อให้องค์การสามารถแข่งขันและก้าวไปสู่เป้าหมายได้
ความหลากหลายเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญสำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าองค์การที่สามารถบริหารจัดการความแตกต่างในองค์การได้เป็นอย่างดี หรือเป็นองค์การที่มีความหลากหลายนั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่า องค์การที่มีแต่ความเหมือนกัน ซึ่งในธุรกิจการให้บริการ นวัตกรรมคือการแก้ปัญหาให้กับลูกค้า และถ้าองค์การมีคนที่มาจากมุมมองที่แตกต่างกัน การแก้ปัญหาให้กับลูกค้าก็จะมีความแตกต่างจากคู่แข่งของเรา
ด้านผู้นำเองก็จำเป็นต้องสร้างความตระหนักและมุมมองต่อความหลากหลาย ดำเนินการวางแผน จัดทำระบบการบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ให้ความสำคัญต่อความหลากหลายในองค์การ
หากเรามองเห็นและยอมรับเห็นจริงว่าความหลากหลายนั้นมีอยู่ในทุกอณูของสังคม ซึ่งถือเป็นทั้งลูกค้าและแหล่งทรัพยากรที่สำคัญขององค์การ องค์การก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะต้องหล่อเลี้ยงความหลากหลายให้เติบโตในองค์การ เพราะการมีพนักงานที่มีความคิดเห็น ความชำนาญ และประสบการณ์ที่หลากหลายจะช่วยให้องค์การสามารถรับรู้ เข้าใจ และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและรับมือกับความหลากหลายในสภาพแวดล้อมได้อย่างดี มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลนั่นเอง
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างองค์การที่มีมุมมองและเล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของความหลากหลาย การหลอมรวม การสร้างความสัมพันธ์ในการทำงาน ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะส่งผลกระทบอย่างไรต่อองค์การ และสร้างความสามารถทางการแข่งขันได้อย่างไร และผู้นำขององค์การเหล่านั้นให้ความสำคัญอย่างไรกับความหลากหลายที่เกิดขึ้นในองค์การ
Frederick W. Smith, ประธานและซีอีโอของ FedEx ได้กล่าวไว้ว่า “ปัจจัยสำคัญของโครงการส่งเสริมความหลากหลายที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จคือ ผู้นำ ผู้นำในบริษัทของเราล้วนดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อรับประกันว่าความหลากหลายยังคงเป็นส่วนหนึ่งของ FedEx” เขาเชื่อว่าความหลากหลายไม่ได้หมายถึงการยอมรับความแตกต่างเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยสะท้อนความหลากหลายในองค์การด้วย นอกจากนี้ยังหมายถึงการเข้าใจความแตกต่างระหว่างพนักงานด้วยกันเองเพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับความสามารถเฉพาะตัวของพนักงานแต่ละคนและผสมผสานมุมมองความคิดของพวกเขาเข้าด้วยกันเพื่อส่งมอบวิสัยทัศน์ของเราสู่ตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
FedEx เห็นคุณค่าของผลงาน มุมมองความคิด และความแตกต่างของสมาชิกในทีม ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงสามารถมอบบริการและการสนับสนุนที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าทั่วโลกและสร้างความยั่งยืนแก่ชุมชน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถเข้าไปดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น และด้วยปรัชญาที่ยึดถือพนักงานเป็นศูนย์กลางมาตั้งแต่ต้น และเติบโตจนกระทั่งได้รับการยอมรับจากนิตยสาร “Fortune” ให้เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมและเป็นหนึ่งในบริษัทยอดนิยมที่สุดในโลก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลงานของพนักงานมากความสามารถที่มาจากภูมิหลังที่แตกต่างกัน มีทักษะและมุมมองความคิดหลากหลาย แต่สามารถร่วมมือกันจนบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้สำเร็จ
Ivan Menezes ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) Diagio, North America กล่าวว่า "ความหลากหลายคือสิ่งจำเป็นทางธุรกิจที่มีความสำคัญยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจที่ Diagio เรารู้ดีว่า เราไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากปราศจากทักษะ พรสวรรค์ และความสามารถของพนักงานของเรา พูดง่ายๆ ก็คือ พนักงานของเราคือส่วนผสมหลักที่สำคัญสำหรับความสำเร็จของเรา" เพื่อให้ Diagio ประสบความสำเร็จในระดับโลก และเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการนับถือสูงสุดในโลก จึงต้องแสดงให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหลายได้เห็นและเชื่อมั่นในพันธสัญญาของบริษัทในอันที่จะสร้างความหลากหลาย (Diversity) และการมีส่วนร่วม (Inclusion) ในทุกสิ่งที่เราทำในทุกวันและทุกที่ เรามองประเด็นเรื่องความหลากหลายและการมีส่วนร่วมนี้ในหลายลักษณะ และเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ยังประโยชน์ให้แก่เราในหลากหลายแง่มุม ประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดที่ Diagio ได้รับก็คือ ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเราในการเข้าถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับฐานผู้บริโภคที่มีอยู่หลากหลายวัฒนธรรม ความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเราในการเข้าถึงกลุ่มคนที่มีความสามารถพิเศษได้กว้างขึ้นเมื่อมีการจ้างงานภายนอก และความสามารถที่เพิ่มขึ้นของเราในการใช้ประโยชน์จากทัศนคติที่หลากหลาย ซึ่งช่วยปรับปรุงแนวคิดและการตัดสินใจของเรา ประการสุดท้าย ด้วยสภาพแวดล้อมของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ทำให้เราเข้าใกล้ความสำเร็จตามจุดมุ่งหมายในการ "ปลดปล่อยศักยภาพของพนักงานทุกคนของเรา" มากยิ่งขึ้น
ประธานและกรรมการเจ้าหน้าที่บริหารของคอลเกต Ian M. Cook Chairmanได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับความหลากหลายไว้ว่า "ความใส่ใจ และการให้คุณค่าแก่ความแตกต่างมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมของเรา ความหลากหลายนี้มีมากกว่าลักษณะที่มองเห็นได้จากภายนอก เช่น สัญชาติ วัฒนธรรม เชื้อชาติ และเพศ ความหลากหลายของเรายังครอบคลุมถึงความแตกต่างหลายอย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้ เช่น ประสบการณ์ชีวิต ศาสนา รสนิยมทางเพศ และสถานะครอบครัว เป็นต้น ความแตกต่างเหล่านี้นำมาซึ่งความหลากหลายทางความคิดในการดำเนินธุรกิจของเรา ที่ไม่สามารถหาได้จากที่อื่น พวกเขาเป็นกุญแจสำคัญของความคิดใหม่ๆ เพื่อสร้างความท้าทายทางธุรกิจ และโอกาสใหม่ๆ จากข้อมูลเชิงลึกที่โดดเด่น การสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีมีสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ประโยชน์จากมุมมองที่หลากหลายเหล่านี้"
จะเห็นได้ว่าองค์การที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่างเหล่านี้มี “ผู้นำ” ที่ให้ความสำคัญต่อความหลากหลาย และคนในองค์การค่อนข้างสูง และประเด็นนี้ถือว่าเป็นความท้าทายที่นักบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ในองค์การบ้านเราต้องทำการบ้านกันเพิ่มมากขึ้น การนำคนที่มีความหลากหลายมาอยู่ร่วมกัน พยายามหลอมรวมเพื่อให้เกิดการผสมผสานและสร้างประสิทธิผลให้กับองค์การ ถือเป็นงานยากและท้าทายพอสมควร เนื่องจากคนจำนวนมากมีความต่างทางวัฒนธรรม และหลายคนไม่เคยเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันและทำงานร่วมกันกับผู้คนที่มีความแตกต่างหลากหลายไปจากสิ่งที่ตัวเขาเป็น
ดังนั้นนักบริหารทรัพยากรมนุษย์จะต้องบริหารจัดการความต่าง หลอมรวมคนต่างๆ เหล่านั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และต้องสื่อสารสร้างความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายให้กับทุกคนในองค์การตั้งแต่พนักงานยันผู้บริหาร เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เลือกปฏิบัติ ก่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคนทั้งองค์การ และจะทำให้องค์การมีการจัดการความหลากหลายที่ดียิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม และประสิทธิผลองค์การที่เพิ่มสูงขึ้นในยุคสมัยที่ความหลากหลายถูกทำให้เด่นชัดในหัวใจและความรู้สึกของผู้คนเช่นในยุคปัจจุบัน
Commentaires